วิธีเรียนรู้

วิธีเรียนรู้ที่ดีที่สุดคือ การแชร์ความรู้

หลายคนคิดว่า ก่อนที่เราจะแชร์ความรู้ได้เราต้องเก่ง ต้องเจ๋ง ต้องรู้เยอะๆก่อน แต่สิ่งที่ผมจะบอกในบทความนี้คือ วิธีเรียนรู้ คนเราไม่ต้องไปสุดทางก่อน เพียงแค่เราพยายามจะแชร์ความรู้ของเราก็ถือว่าเป็นก้าวที่สำคัญแล้วครับ

ทำไมเราต้องแชร์สิ่งที่เราเรียนรู้

วิธีเรียนรู้

ในสัปดาห์สุดท้ายของปี 2011 เดือน พฤศจิกายน เหล่าเทพ Dev ได้ร่วมตัวกันจัดตั้งกลุ่มกันแล้วปล่อยโปรเ็จ็คหนึ่งซึ่งชื่อว่า ‘Move the web forward‘ ( ไว้จะมาแปลให้อ่านกันนะมีความรู้ดีๆโครตเยอะ ) ซึ่งถ้าคุณอยากรู้เกี่ยวกับเจ้าโปรเจ็คนี้สามารถหาอ่านได้ที่นี่เลย http://www.smashingmagazine.com/2011/11/30/the-smashing-guide-to-moving-the-web-forward-community/

แต่สำหรับบทความนี้ ผมจะเน้นย้ำไปที่เรื่องการให้คำแนะนำสำหรับในโปรเจ็คนั้น ( ไอ้ Move the web forward ) เกี่ยวกับหัวข้อ ‘การเขียน

วิธีเรียนรู้ จากการ ‘การแชร์สิ่งที่คุณเรียนรู้’

ทันทีที่ผมได้อ่านเกี่ยวกับการแนะนำ ผมรู้ได้ทันทีเลยว่ากลุ่มคนที่มาทำโปรเจ็คนี้เป็นกลุ่มที่มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดการเว็บไซร์และรู้ว่าจะทำอย่างไรให้นักพัฒนาและอุตสาหกรรมด้านนี้ก้าวหน้า

โดยจำมีแค่คำจำกัดความง่ายๆแค่เพียง 4 คำเท่านั้น ซึ่ง 4 คำนี้เป็นหัวใจเลยก็ว่าได้ในการจัดการไม่ว่างานจะเป็นการจัดการ Front – End เล็กหรือใหญ่บางทียังอาจจะช่วยเกี่ยวกับทุกๆอุตสาหกรรมอีกด้วย

4 อย่างที่เราจะพัฒนาขึ้น

Just Do It

มีบล๊อกน้อยมากที่เริ่มด้วยการมี traffic ที่สูง ยกเว้นพวกบล๊อกที่เป็นแบนด์ต่างๆ เพราะคนส่วนใหญ่คงรู้จักกันดีอยู่แล้ว บล๊อกส่วนใหญ่เริ่มด้วยมีผู้อ่านเพียงหยิบมือ ( บล๊อกตูเนี้ยแหละ -_- ) แม้แต่เว็บ Smashing Magazine ที่มีผู้อ่าน ผู้ติดตามใน twitter ผู้ที่ subscrib เป็น ล้าน ก็เริ่มจากความว่างเปล่าก่อน

CSS-Tricks เว็บนี้เป็นตัวอย่างที่ดีเหมือนกันเพราะว่าเว็บนี้ก็เริ่มจากไม่มีอะไรเลย แล้วโตมาจากการเป็นชุมชนหรือที่เราเรียกกันในนาม community นั่นเองซึ่งทำให้เว็บรุ่งเรืองมาจากการเป็น community ผู้ก่อตั้งคือ Chris Coyier ซึ่งเขาไม่ได้คาดหวังว่าเว็บจะต้องเติบโต และผมก็มั่นใจว่า พวกเราทุกคนนั้นสามารถทำอย่างนี้ได้ จากตัวอย่างที่บอกมา 2 – 3 เว็บนั้นที่สามารถเปลี่ยนจาก zero เป็น hero ได้ในเวลาอันสั้น

ทำไมพวกเขาถึงได้ประสบความสำเร็จ ? เพราะเว็บไซร์เหล่านั้น แชร์ความรู้ที่เขาเรียนรู้  มีครั้งหนึ่งผมชื่อชอบ มุมมองที่ว่ามีบล๊อก ( Blog ) มากมายได้เปิดตัวขึ้น แต่ผลประโยชน์ที่มากมายทำให้คนที่มาแชร์ความรู้ไปแชร์ต่อหลายๆที่จนเกินพอดี

แน่นอนว่านี่ไม่ใช่การแนะนำ ที่จะเป็นเหตุผลว่าให้คุณคิดทำอะไรที่ยิ่งใหญ่ ( มันคือเรื่องรอง ) แต่ถ้าคุณตัดสินใจแล้วว่าจะทำมัน ในความเป็นจริงไม่สำคัญว่าจะแชร์ที่ไหนไ่ม่ว่าจะเป็น บล๊อกของตัวคุณ เอง, twitter, wiki ก็ได้ถ้าคุณอยากแชร์, GitHub ก็ได้อะไรก็ได้ที่คุณสามารถทำได้เลย อย่าคิดมากลงมือ !!

Don’t Be Afraid To Make Mistakes ( อย่ากลัวความผิดพลาด )

บางคนอาจจะคิดว่า “อะไรว่ะ ให้กรูเขียนเนี้ยนะ ? ยังไง ? แชร์เองเนี้ยนะ !!!?” ตูเขียนโค้ดอย่างเดียวไม่เคยเขียนบล๊อกโว้ย ! ถึงจะมีคนอ่านจริงๆ หัวข้อที่ตูเขียนแหม่งก็คงโดนด่าเละเพราะโครต Geek ตูคุยกับคอมพิวเตอร์เป็นอย่างเดียว แค่เจอมนุษย์ตูยังแทบจะลืมว่าทักทายยังไงเลย จะให้มาเขียนบล๊อก”

คำตอบคือ ช่างแม่ง! ใช่ครับช่างมันเถอะอย่าไปสนใจว่าคุณจะเป็นเชี้ยอะไร ยังไงคุณต้องมีความรู้อะไรซักอย่างที่หลายคนไม่รู้ และคุณก็เคยค้นหา ศึกษา เรียนรู้ไม่ว่าจะเป็นความสำเร็จที่เล็กน้อยหรือความผิดพลาดที่ยิ่งใหญ่ก็ตามที นี่เป็นสิ่งที่ Move the web forward ได้พยายามสนับสนุนให้ผู้เขียน ‘อัพเดทบ่อยๆ’

แม้แต่ความรู้เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยหากคุณเขียนเพื่อเตือนตัวเองก็ไม่เป็นไรเพราะถ้าสมมติผมอ่านคุณก็ได้ประโยชน์คูณไปเท่าจำนวนคนอ่านอีกด้วย และคนที่อ่านก็อาจจะกลายมาเป็นคนเขียนช่วยกัน เขียนเหมือนคุณ ฉะนั้นอย่ารีรอคุณกำลังจะเป็นคนจุดไฟคนแรกแล้ว !!!

Comments Are Part Of The Content ( Comment ก็คือส่วนหนึ่งของเนื้อหา )

มีหลายๆครั้งที่ผมไปอ่านเนื้อหาตาม Internet แล้วเจอคนมา comment ถามคำถามต่อจากในเนื้อหานั้น ถึงแม้ว่ามันอาจจะไม่สำคัญเท่ากับเนื้อหาที่ผู้เขียน แต่มันก็มีประโยชน์ไม่แพ้กันทีเดียวบางครั้ง ผมก็เจอคำตอบดีๆใน comment นั้นๆ และอยากให้ทุกเว็บไซร์มีการอัพเดทหรือเปลี่ยนแปลงเนื้อหาให้ถูกต้องด้วยถ้ามีคนมาแนะนำเพิ่มเติม อย่าคิดว่าเขียนเสร็จแล้วเสร็จเลย ตัวอย่างดีๆที่เรามักเจอบ่อยคือ blognone , pantip.com ซึ่งคนอ่านเยอะจะมักจะแนะนำว่า คำนี้พิมพ์ถูกอย่างไร หรือว่าเนื้อหานี้น่าจะแปลอย่างนี้นะ ทำนองนี้ครับ ซึ่งการที่ผู้เขียนได้แก้ไขแล้วอัพเดทมันเป็นการแสดงถึงความเคารพต่อผู้อ่านและได้เผยแพร่ข้อมูลที่ถูกต้องอีกด้วย

แต่ในความเป็นจริงผู้เขียนอาจจะเกรียนเอา comment ออกเลยไม่ต้องการความคิดใคร อยากสร้างมาเฉยๆ วงการ Design หรือ Programmer คงจะไม่พัฒนาอย่างแข็งแกร่งอย่างทุกวันนี้ และผู้เขียนเนื้อหาก็บอกว่า เขาได้ทำเว็บส่วนตัวของเขาอยู่ โดยมีเขียนเรื่องราวต่างๆ คล้ายๆกับบล๊อกตูเนี้ยแหละ ไม่มีเนื้อหาประเด็นเท่าไร อาจจะชีวิตความคิดหรือใดๆก็ตามแต่ แต่เขาก็ไปแก้ไขเรื่องหาเก่าๆ ทุกๆบทความที่มีการแนะนำจากคนเขียนและให้ Credit อีกด้วยทุกครั้ง 

Teachers Learn By Teaching ( ผู้สอนเรียนรู้จากการสอน )

จากตัวอย่างที่กล่าวมานั้นจะเห็นว่าคุณก็ได้เรียนรู้จากผู้อ่านที่จะถามข้อสงสัยใน comment ให้กับคุณ และถ้าหากคุณตอบคำถามไม่ได้ ณ ตอนนั้นคุณก็คงอยากจะหาคำตอบมาให้เขาโดยคุณก็คงต้องศึกษาเพิ่มเติมจากเดิมที่คุณแชร์หัวข้อนั้นๆไปโดยทีคุณอาจจะไม่ได้คิดถึงในสิ่งที่เขาถาม เช่น ผมเขียนบทความเกี่ยวกับการ install android ต่อมามีคนมา comment ว่า ‘ผมทำอย่างพี่ไม่ได้เลยครับ มันขึ้นว่า บลาๆๆ’ คุณก็อาจจะไปศึกษาต่อหรือหาคำตอบมาตอบให้ซึ่งทำให้คุณได้เรียนรู้มากขึ้นอีกด้วย

สรุป

การเขียนเนื้อหาในการแชร์ได้ข้อดีทั้งผู้ให้และผู้รับ การที่เราได้มาอ่านเนื้อหาของเว็บและได้ร่วมมือกันเป็นส่วนหนึ่งเพื่อที่จะสร้างเนื้อหาดีๆให้คนอื่นๆได้อ่านต่อนั้นอาจจะนำพาเราไปสู่เส้นทางเว็บไซร์ที่เติบโต โดยผู้เขียนก็ควรจะรับฟังและให้ credit สำหรับคนอ่านที่มาแนะนำหรือเสนอแนะต่างๆ และผู้อ่าน/comment ก็ควรจะใช้วาจาที่สุภาพไม่ขนาดเข้ามาเกรียน ข้อสรุปหลักๆที่อยากจะเน้นย้ำอีกครั้งมีดังนี้

  • เมื่อคุณได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆแล้ว คุณควรจะเขียนมันและอย่าคิดจะเอามันไปหาเงิน
  • อย่ากลัวที่จะทำผิดพลาด
  • สอนคนอื่นก็เหมือนสอนตัวเองไปด้วยเสมอ
  • สนับสนุนการรับฟังความคิดเห็นคนอื่นและเปิดโอกาสให้ผู้อ่านได้มีส่วนร่วมเสมอ
  • ถ้าคุณทำผิดพลาด … ก็แค่แก้ไขมันซะ

จากทุกข้อที่กล่าวมานั้นคงเป็นบทสรุปที่อาจจะใช้บ่อยสำหรับนักพัฒนาเว็บทั้งด้าน Desgin / Programmer แต่ก็อาจจะใช้ได้กับอาชีพอื่น ผมหวังว่าการเขียนบทความนี้จะเป็นทั้งกำลังใจและแรงบันดาลใจให้กับคนอ่านอีกหลายๆคนนะครับ อย่าลืม !! ความคิดเห็นของคุณสำคัญ ฉะนั้น comment ไว้ให้ผมด้วย ขอบคุณครับ : )

source : http://www.smashingmagazine.com/2012/03/30/publish-what-you-learn/

คุณอาจจะอยากหาวิธีการพัฒนาตัวเองมากกว่านี้ผมแนะนำให้อ่านที่นี่เลยครับ

6 วิธีพัฒนาตัวเองสามารถใช้ได้กับทุกเรื่อง

Loading

เป็นโปรแกรมเมอร์ที่ตามหาคุณค่าของชีวิตและความฝันในวัยเด็ก ชอบเล่นเกม เรียนรู้ทุกอย่าง ชอบเจอคนใหม่ๆ งานสังคมทุกชนิด ออกกำลังกายในวันว่าง อ่านหนังสือ มีเว็บรีวิวหนังสือด้วย www.readraide.in.th