
และแล้วก็ถึงภาค 2 ต่อจนได้กับเรื่อง VC และ Angel ใครยังไม่รู้จักทาง Thumbsup เขาอธิบายไว้ละเอียดมากแล้วผมคงไม่ต้องเรียบเรียงใหม่เชิญไปอ่านกันก่อนได้เลย รู้จักกับรูปแบบนักลงทุน.. Angel หรือ VC ที่เหมาะกับธุรกิจใหม่ของคุณ อ่ะต่อไปเชิญท่านผู้อ่านไปลุยกันต่อกับครึ่้งหลังได้เลยครับ
VC ทำเพื่อผลประโยชน์ต้องมี return เป็นรูปแบบองค์กรให้เงิน เอาหุ้น
Angel เป็นบุคคลที่มา support เงินไ่ม่ก้าวก่ายเหมือน VC แต่ !
VC เป็นอะไรที่น่าเข้าหามากกว่าเพราะว่ามี Know How ( ในที่นี้หมายถึงว่าความรู้ความสามารถ เพราะพวก VC จะจัดหาคนที่รู้เรื่องที่เราอยากรู้ หรือคนที่เีชี่ยวชาญมา่ช่วยเหลือเราไม่ใช่ให้แค่เงินเพียงอย่างเดียว ) กว่าจะได้เงินนั้นไม่เหมือนกับเราไปขอเงินพ่อแม่นะครับ ใครฝันว่าได้เงินซััก 30 ล้านจาก VC แล้วเชิด เลิกคิดไปเลย ! คุณต้องทำ deal intelligence ( เป็นคล้ายๆกับว่าคุณต้องวางแผนให้เขาเห็นว่าช่วง 3 เดือนจะทำอะไรบ้างต้องการเงินเท่าไร แล้วได้อะไรกลับมา ประมาณนี้เลย ) เงินไม่ได้เป็นกองนะครับ เขาก็จะให้เงินคุณตามแผนที่คุณเอาไป deal กับเขานั่นแหละครับ และมีการติดตามผลอย่างต่อเนื่องทุกสัปดาห์
อย่างของพี่ที่ทำนากุ้งนั้นเป็น Angel ก็มีปัญหาที่ควบคุมไม่ได้อยู่อย่างเช่น โรคระบาคหรือมีการโกงของลูกจ้าง ซึ่งทาง Angel ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ก็จัดหาคนที่เชี่ยวชาญมาช่วยเหลือเราให้คำแนะนำถ้าเจอปัญหาอย่างนี้ทำอย่างไร ( จะเห็นว่ามันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าเป็นอะไร บางคนก็ให้ความช่วยเหลือเต็มที่เหมือนกัน )
Builk.com
พี่เขาได้ไป present ที่เวียดนามและได้เป็นตัวแทนไปต่อที่สิงคโปร์ ถือว่าเป็นคนที่เจ๋งมากๆคนหนึ่งของประเทศเราเลยทีเีดียวทั่งๆที่พี่ไผทไม่ได้ต้องการชนะ พี่เขาบอกว่าต้องการไปหา partner ที่เวียดนามเท่านั้นเอง
พิธีกรถาม : ไม่กลัวคนอื่นเอาแนวคิดเราไปเลียนแบบหรอ ( กรณีอย่างนี้บ้านเราแหม่งทำจนเป็นเรื่องปกติจริงๆจากที่เห็นพี่ๆในวงการโดนกัน )
พี่ไผท : เรามี SecretSource อย่าไปกลัว และก็อย่างที่บอกว่าพี่เขาไม่ได้ต้องการ VC/Angel แต่อย่างใด
Trick ของพี่ไผทที่ไป present คือ
- บอกให้ชัดเจนว่าตัวเองทำอะไรยังไง
- Team work เจ๋ง ! มั่นใจ
- VC ชอบวงการที่มีโอกาสโต ( พี่เขาบอกว่า VC ในงานเบื่อมากพวกเว็บ Social พวกซ้ำๆซากๆ )
- Growth plan การเจริญเติบโตของเรา
- Focus ชัดเจนว่าเป้าหมายแต่ละก้าวคืออะไร
- มีโอกาส คล้ายกับ Growth นั่นแหละ
เมื่อ VC สนใจเราอย่ารีบกระโดดงับโดยทันที พี่ไผทเชื่อว่า เราเลือกได้ จึงอยากให้ลองศึกษาคนที่เข้ามาก่อนว่าเขามองเห็นสิ่งเดียวกับเราหรือเปล่า ไม่ใช่ให้เงินแล้วมาคุมอำนาจก็ไม่ไหว ไปกันไม่รอดและยังคงเชื่อว่าจริงๆแล้วไม่ต้องการ VC หรอก โดยพี่ไผทได้แชร์ slide ( ทำโครตเจ๋งขอบอก ผมเชื่อว่าพี่แกทำได้ดีกว่าคนในวงการหลายๆคนทำ และที่สำคัญคือใน power point ว่ะครับ จะแจก link ให้ดูหลังบทความนะจ๊ะ )
คบคิด.com
- ให้เลือก VC/Angel ที่มีมุมมองเดียวกับเรา ( คุ้นๆมะ แต่เชื่อเถอะว่าพี่ๆเขาเจอมาหลายคนแล้วแหละ )
- อย่าคิดว่าจะหาเงินแล้วเลิก !!! ( ซึ่งหลายคนแหม่งก็คิดอย่างนี้แหละผมก็คนหนึ่ง ) เพราะว่า …มันจะทำให้เราทำงานได้ไม่ดี
- คนจะทำอย่างนี้ได้ต้องมีประสบการณ์แล้วซึ่งมันคงนานพอดู
- หาคนที่พร้อมจะให้เงินคุณจริงๆเมื่อคุณต้องการ
- ทำในสิ่งที่คุณตั้งใจดีกว่า อย่าคิดแต่จะหาเงินก่อน
- VC ได้มาอาจจะเป็นทุกขลาภก็ได้ถ้าไม่ิคิดให้ดี
- เลือกเส้นทางดีๆ โตช้า / โตเร็ว จะเอาอะไรยังไง ต้องทำอะไรบ้าง โอกาสเวลาเป็นสิ่งสำคัญ
- ธุรกิจด้าน IT เข้าง่ายก็ออกง่ายเหมือนกัน
- เลือก VC/Angel ที่พร้อมจะให้ Know/How แก่เราด้วย
- แต่การเติบโตช้านั้นไม่เหมาะสมกับธุรกิจ startup ด้าน IT เพราะเข้าง่ายจากเหตุผลที่กล่าวไปแล้ว จะโดนแซงง่าย เราจะตายก่อน
ต่อมาพิธีกรถามเกี่ยวกับว่า : ความเป็นเจ้าของมีความสำคัญแค่ไหน ( บางคนอาจจะงง เพราะว่าการมี VC /Angel นั้นก็จะมีการเอาหุ้นไปส่วนหนึ่งถือเป็นเจ้าของร่วมนั่นแหละ ไม่ถึงขนาดเอาไปหมดหรอก)
พิพัตน์ @chyutopia ( Thumbsup.com )
ไม่ค่อยจะเป็นกังวลเท่าไรกับเรื่องนี้ การเสียนิดหน่อยแล้วทำให้เราเติบโตได้อย่างก้าวกระโดดย่อมดีกว่า ถ้าจะออกจากการเป็นเจ้าของก็คงขายเข้าตลาดห้นไปเลย
ยอด @yodchin ( wongnai.com )
ถ้าไม่คิดออกเงิน 100% ก็อย่าคิดจะเป็นเจ้าของ 100%ความจำเป็นต้องพึ่งพาคนอื่นหาเงินให้เราฉะนั้นค่าตอบแทนต้องมี
ภานุ ( kobkid.com )
ไม่ต้องเป็นเจ้าของเลยก็ได้ ยังไงถ้าเราคิดอะไรใหม่ได้ตลอดก็ขายแหม่งเลย !! ทำนองเนี้ยแหละจ้า
พี่ไผท ( builk.com )
ถ้าถามวันนี้คงอยาก เมเจอร์แชร์อยู่ ถ้าเจอคนฉลาดกว่าและคุยกันได้่ก็คงให้ แต่ ณ วันนี้ยังมองเห็นลู่ทางอยู่ ( แกชอบมองว่าตัวเองโง่ ! แกพูดคำนี้บ่อยแต่ผมรู้สึกว่าแกเก่งมากในหลายๆด้านและเพราะแกก็ขยันเหมือนกันไม่ใช่ว่าแกนั่งสมาธิแล้วเกิดความรู้ )
Q&A
Q: ลงเงินไปเท่าไร กับทีม และให้คนละเ่ท่าไร
A: พิพัฒน์ : มี VC มาก่อนตั้งแต่ตั้งทีม ส่วนทีมก็หาจากตอนที่เรียน ป.โท
A: พี่ยอด ( วงใน ) : 1 ล้านบาท และแนะนำว่าทีมควรจะหาคนที่เป็นแบบความสัมพันธ์ weak link นั่นก็คืออย่าเอาเพื่อนสนิทคนใกล้ตัว เพื่อน ม. ปลาย แต่ให้หาคนที่เจอกันตามงานที่เรารู้ว่าคนนี้เก่ง เป็นต้น
A: อันนี้ไม่รู้ใครตอบ : ขายฝันคนใกล้ตัวก่อนถ้ามันดีคนก็อยากร่วมด้วย
Q: มี Time management กันอย่างไรบ้าง ? ( อันนี้หมายถึงวันๆหนึ่งทำไรบ้าง )
A: ภานุ : ดู state ข้อมูลนำ้มาแก้ไขปัญหา , update ข้อมูลตัวเองบ่อยๆ , คุยกับทีมงาน
A: ไผท : ผลักดันตัวเองให้เรียนรู้อยู่เสมอ , หา state ต่างๆของระบบมาวัดค่าแล้วนำไปแก้ไข, เขียน Idea คุยกับคนอื่นบ้างที่ไม่ได้อยู่ในสายงานเราจะได้ Idea ใหม่ๆ ความคิดใหม่ๆแปลกๆ , Service Sci ( เอาเทคโนโลยีมาแก้ไขปัญหา/บริการ ถ้าผมจำไม่ผิด )
ช่วยเช้าจะแบ่งเป็น 3C คือ ดู Customer , Competitor, Company ดูลูกค้าเราทำอะไรบ้าง คู่แ่ข่งเราไปถึงไหนแล้ว ตัวเราเองล่ะเป็นไง
เสริม ถ้าจ้างคนต้องจ้างคนที่เก่งกว่าเรา แต่คนที่เก่งกว่าเราบ้างทีก็จ้างไม่ได้เพราะแพง ก็ต้องจ้างอย่างน้อยก็เก่งเท่าเราถ้าสมมติว่าเราต้องทำงานด้านนั้น
Q: เส้นการตัดสินใจจะทิ้งโปรเจ็คหรือไม่ มันจะมีประโยชน์จริงๆหรือเปล่า มันจะขายได้จริงไหม ?
A: ให้ถามตัวเองก่อนว่า Idea เรามันไปได้จริงๆไหม ให้หลายๆคนช่วยตบความคิดเรา
A: ไผท เชื่อในสัญชาตญาณของตัวเอง ต้องทุ่มเทกับสิ่งที่ทำอย่างเต็มที่มี passion ตบเข่าฉาด

โอเ้คก็จบไปแล้วสำหรับงานดีๆจาก webpresso หากใครคิดว่างานดีๆอย่านี้ไม่ควรจะพลาดนั้นก็สมัครสมาชิกเลยได้เพียงแค่ ปีละ 200 บาท ก็สามารถมาร่วมงานได้ทุกครั้งที่มีการจัดและติดต่อข่าวสารใหม่ๆได้อีกด้วย สำหรับบทความนี้ขอจบเพียงเท่านี้ครับ หากผมมีการเรียงผิดพลาดตรงไหนอย่างไร รบกวนแจ้งไว้ได้เลยครับจะขอบคุณมากๆ
ปล. ไม่ลืม link slide หรอกนะ จัดกันไปเลยที่นี่ http://www.slideshare.net/bizbote/builk-presentation-deck-in-echelon-2012
ถ้าคุณชอบบทความในเว็บนี้ และอยากสนับสนุนเรา เพียงแค่คุณสมัครรับข่าวสารด้านล่างจะได้รับสิทธิ์พิเศษก่อนใคร เราสัญญาว่าจะส่งบทความที่เป็นประโยชน์ต่อคุณอย่างแน่นอนครับ