หลังจากตัดสินใจการเดินทางของชีวิต ( เดี๋ยวจะมาเขียน Link กับอันนี้ทีหลันะครับ ) ก็ได้ออกทริปแรกกับน้องๆของค่าย ywc เลยไม่ได้ออกเที่ยวนานมาก ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ต้องเดินป่าไปดูน้ำตกที่สวยติดอันดับโลกนั่นคือ ทีลอซู ไม่เคยเดินเลยเพราะว่าเป็นคนไม่ชอบการเดินป่า มันยุ่งยากมันเยอะ มันต้องเตรียมของ มันเหนื่อย สารพัดที่จะมาเล่าให้ฟังในครั้ง สำหรับคนที่อยากจะไปลองของเหมือนกัน หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อทุกท่านนะครับ เชิญติดตามเลย
การเตรียมตัว
โดยผมเดินทางตั้งแต่วันที่ 31/07/2557 – 3/08/2557 สิ่งที่จะต้องไปเดินป่าช่วงหน้าฝน หลายคนอาจจะคิดไม่ออกว่าต้องเอาอะไรไป อะไรไม่ต้องเอาไปบ้างผมจะ List ให้ง่ายๆแล้วกันนะครับ
- เสื้อผ้าของเป็นเสื้อหนาหน่อย เพราะแมลงแหม่งดุอย่างกับเสือ กางเกงด้วยขอเป็นขายาวหนาๆ
- รองเท้า เอาสบายหน่อยก็รัดส้น ทั่วไป จริงจังก็เอารองเท้าเดินป่าหากเป็นคนชอบเดินนะ แต่นี่ผมเอารัดส้นไปพอได้เละโครตๆ
- ไฟฉาย โครตสำคัญเอาไปด้วยเพราะไฟตัดตอน 3 ทุ่ม แต่เวลาเย็นก็มืดแล้วควรเอาอันที่ใหญ่นิดหน่อย
- ยากันยุงและแมลง แค่ทาไม่พอ เรียกว่าอาบไปเลยดีกว่า แหม่งเยอะโครตๆ
- อุปกรณ๊อาบน้ำแบบพกพาง่าย
- น้ำดื่ม อันนี้สำคัญมากในเวลาที่ไม่มี ถ้าขายให้เพื่อนตอนเหนื่อยขวดละร้อยมันอาจจะซื้อได้เลยนะ (ฮา)
- เสื้อกันฝน อันนี้จำเป็นต้องเอาไปด้วยครับเดี๋ยวจะเล่าให้ฟังว่ามันทุลักทุเลยังไง
- ถุงกันเปียก สำหรับตอนขึ้นเรือจำเป็นเพราะการเดินทางไปดูนั้นมีฝนตกบ่อย ถ้าเป็นกระเป๋ากันเปียกก็ยิ่งดี
- power bank อันนี้แล้วแต่คนหากติด social ก็เอาไปก็ได้หรือเอามือถือไปเล่นเกมแก้เบื่อตอนนั่งรถ
- อุปกรณ์ it ไม่ต้อง !! เพราะไม่ได้ใช้อะไรไม่มีสัญญาณโทรศัพท์หรือ internet ถ้าหากจะมีก็น้อยมากอย่าเอาไปยกเว้นจะเอาไปถ่ายรูปแบบผม
- เงิน ไม่ต้องเยอะแค่ติดตัวบน อุทยานมีของกินของขายนิดหน่อยเพื่อจะซื้อ
- หมอนหนุนคอ แบบเป่าลมจะดีมาก เก็บง่าย
- รางปลั๊ก ถ้าหากมีของ it เยอะอย่าลืมเอาไปด้วยห้องพักมีที่เสียบจำกัด
- ความกล้าหาญและความอดทน ไม่ได้ล้อเล่นอันนี้ต้องมีจริงจังเลย
โอเคหลังจากเตรียมตัวก็เตรียมใจ รีสอร์ทที่เราไปพักครั้งนี้คือ คันทรีฮัท อันนี้ facebook fan page ครับ https://www.facebook.com/pages/%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B8%9C%E0%B8%B2%E0%B8%87-%E0%B8%84%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%B5-%E0%B8%AE%E0%B8%B1%E0%B8%97/172590292847774
เป็นการต้อนรับที่ดี ไกด์นำเที่ยวก็ดีเป็นกันเองครับ ก็อยากไปพักก็ว่ากันไป เอาล่ะไปดูกันต่อเลย
เริ่มเดินทาง !
ผมเริ่มออกบ้านอย่างรีบเร่งเพราะมันใกล้ถึงเวลานัดแล้ว โดยนัดกัน 2 ที่ ผมต้องไปขึ้นรถตู้ที่ BTS สถานีหมอชิต ซึ่งมันก็ง่ายสำหรับผมที่สุดแล้วยังเกือบจะไปสาย ( โธ่ ชีวิต ) เกือบไม่ทันไปถึงพอดีเลย 5 ทุ่ม พอรถออกแล้วก็นั่งกันชิวๆ ก็มีแวะปั้ม แวะเข้าห้องน้ำเหมือนท่องเที่ยวทั่วไปแต่มันก็ไกลพอสมควร ดูจากรูป
Google map
เดินทางกันไปกว่าจะถึงเล่นเอาเหนื่อยเลย โดยผมจะไล่ว่าเจออะไรบ้างระหว่างทางนะครับ จุดแรกที่เราไปแวะไปก่อนเลยก็คือ อุทยานน้ำตกผาเจริญ สวยดีน้ำเย็นแล้วก็สดชื่นมาก
อุทยานน้ำตกผาเจริญ
อุทยานน้ำตกผาเจริญ
อุทยานน้ำตกผาเจริญ
หลังจากนั้นก็ถึงจุดแวะพักแรกซึ่งให้พวกเราได้ทานอาหารเช้ากันและแวะเข้าห้องน้ำ อากาศกำลังดี มีแมลงให้ถ่ายรูปด้วย ก็กินข้าวจัดไข่ลวกไป 1 แก้วอร่อยแปลกๆดี พอดีไม่ได้ถ่ายไข่ลวกหน้ามืดหิวไปหน่อยกินเกลี้ยงเลย ฮา มีมุมให้ถ่ายรูปก็เลยไปจัดกันซักหน่อยตาม step คนติด social และถ่ายไว้เป็นที่ระลึก
ผู้พิชิต 1219 โค้ง
ตัวไร ?
เพราะตอนไปจริงออก 5 ทุ่มถึงที่นู้นเที่ยงเลยจ้าาาาาา พอถึงเสร็จแล้วต้องรีบเก็บของเลยถ่ายรูปห้องที่ผมได้พักมาให้ดูนิดหน่อยเพื่อว่าใครอยากจะไปพักจะได้รู้ว่าห้องเป็นไงครับ ห้องผมพักเป็นแบบนอน 2 คนมี tv กับพัดลมมีช่องให้เสียบปลั๊ก 2 ทีเท่านั้นเพราะฉะนั้นเอารางปลั๊กมาช่วยได้เยอะ
ห้องพัก
ห้องพัก
ห้องพัก
สวนหน้าห้อง
สวนหน้าห้อง
หน้าห้อง
แล้วผมก็ทำพลาดเลยเพราะทางรีสอร์ทบอกแล้วเราแล้วว่าจะล่องเรือในวันแรกผมดันลืมเอา ชุดกันฝนไปด้วย ใครที่มาอ่านก็อย่าลืมเอาไปด้วยนะครับ แล้วก็ชุดเสื้อผ้าไปแค่ 1 ชุดสำหรับนอนที่ อุทยานครับ ที่เหลือก็น้ำ ซึ่งทางรีสอร์ทจะให้เราคนละ 1 ขวดอยู่แล้ว เสื้อกันหนาวหากใครขี้หนาวก็เอาไปด้วย ส่วนที่บนอุทยานทางรีสอร์ทได้เตรียมถุงนอนกับผ้าห่มให้แล้วครับกับเต้นท์กางให้เสร็จเลย เย้ !
ล่องเรือ
หลังจากเก็บของทุกอย่างและพกของที่จะติดตัวไปเสร็จเราก็รวมพลไปเตรียมตัวเปียก ( ฮา ) เพราะจะขึ้นเรือโดยมีไกด์สองคนต่อ 1 ลำเป็นทั้งคนพายและคนพูดแนะนำสถานที่ต่างๆที่เราจะพาไป ก็สนุกดีไปอีกแบบครับ
ก่อนลงเรือ
ก่อนลงเรือ
น้ำค่อนข้างแรงในหน้านี้นะครับ แต่ไม่ค่อยมีแบบตื่นเต้นเท่าไร มีนิดหน่อย อ่า … ในทริปนี้ใครที่กลัวแมงมุม อย่าไป !!! โครตจะเยอะและกระโดดขึ้นเรือมาบ่อยโครตๆ ถึงจะไม่ได้กัดก็เถอะแต่มาบ่อยจริงๆครับ มด แมลง เรียกได้ว่ามาทุกครั้งที่มีผ่านพวกต้นไม้ ใบไม้เลย
ล่องเรือ-ทีลอซู
ระหว่างทางไกด์ก็จะมีแนะนำว่าถึงหน้าผาอะไรแล้วบ้าง ซึ่งจะบอกชื่อและเหตุผลว่าทำไมมันชื่อนี้ เช่น ผานางกวัก ก็จะมีหินรูปเหมือนมือนางกวัก หรือ ผาผึ้งก็จะมีรังผึ้งเยอะมากครับ เรียกได้ว่าอยู่กันเป็นอำเภอเลยเยอะจริง สงสัยไม่ค่อยมีอะไรไปยุ่งกับมันมั้ง
ล่องเรือ-ทีลอซู
และแน่นอนมีผ่านนำ้ตกด้วย สวยงามมากของพวกนี้มองภาพยังไม่รู้สึกดีเท่าไปเห็นเองเพราะบรรยากาศ ความชื้น เสียง สิ่งที่ได้สัมผัสมันชัดเจนมากกว่าแค่ตามองจริงๆครับ ใครยังพอมีแรงผมอยากให้ไปดูมันเกินกว่าคำว่าสวยงาม ไปไกลเลยครับ
น้ำตกทีลอจ่อ
น้ำตกทีลอจ่อ
เดินเท้า
ผ่านจากการล่องเรือต่อมาเราจะต้องเดิน 10 กิโลเมตร ใช่ครับ 10 โลแบบสลับขึ้นเนิน ทางราบและทางลาด มีหมดทุกแบบและที่สำคัญฝนแหม่งก็ตก ใครสุขภาพไม่ดีเนี้ย อาจะมีป่วยได้เลย โชคดีที่ทั้งกลุ่มผมไม่มีใครป่วยเลย เดินลุยกัน บอกเลยว่า โครตเหนื่อย !!!!!!!! จริงๆนะครับมันเหนื่อยแบบว่า ขนาดผมออกกำลังกายยังเหนื่อยมาก พอเดินมาซักระยะร่างกายก็จะปรับได้บ้างก็เดินชิลขึ้นมาหน่อย แนะเลยว่าให้เอากระเป๋าที่เป็นเป้ไปอย่าเอาสะพายข้างไปมันเหนื่อยกว่ามากเอาเป้มันช่วยได้เยอะกว่าจริงๆครับ
ท้องฟ้า ทีลอซู
ฝนก็ตกลงมาบ้าง บางทีก็หยุดแล้วแต่อารมณ์ของธรรมชาติจริงๆครับ แต่ที่ซวยคือพวกเราครับ ทางที่เดินลำบากแล้วยังเละไปด้วยโคลน และความลื่นที่สุดๆจริงๆ เพราะพวกผมนั้นเพิ่งจะมาเป็นกลุ่มแรกๆเลยทางเนี้ยเรียกว่าเปิดซิงคงได้ ลื่นโครตๆ ต้องขอบคุณไกด์ที่ทำไม้สำหรับทุกคนช่วยได้เยอะจริงๆครับ เรียกว่าเป็นเพื่อนร่วมเดินทางของทุกคนเลยก็ว่าได้ การเดินเขาหรือเดินทางในป่า ต้องมีไม้นะครับ ช่วยเหลือได้หลายอย่างเลย สามารถพยุงเราได้ นำทางได้ตีพวกต้นไม้ที่มีหนาม กันลื่นโอยสารพัดประโยชน์มากมี มันดีมากๆ พกไว้เลยอย่าฟอร์มจัดคิดว่าแน่ พลาดมาเยอะแหละครับ
ไม้เท้า
การเดินทางอย่ารีบเร่งครับ ควรจะเดินกับไกด์ไปด้วยกันไม่ต้องรีบนำไปโชว์พาวร์เพราะจะทำให้หลงได้แล้วจะยิ่งแย่ มีแรงเก็บไว้ช่วยเพื่อนดีกว่าครับ และที่สำคัญพวกยา ทาแผลสดและพวกพลาสเตอร์ยาเนี้ยควรพกไว้เพื่อว่าเพื่อนเราลื่น เกิดแผลจะได้ช่วยเหลือกันได้ครับ
ทางเดิน
สังเกตุทางมันเละมากอันนี้ยังไม่เท่าไร แต่ที่เดินเละกว่านี้อีกครับ เล่นเอาท้อเลย แต่ก็สนุกดี อ๋อมีเพื่อนในกลุ่มรองเท้าขาดด้วย ทางที่ดีหากไม่มั่นใจควรพวกรองเท้ารัดส้นสำรองไปด้วยซักคู่เพื่อเพื่อนหรือคนในกลุ่มน่าจะช่วยได้เหมือนกัน เดินกันต่อมีทางลาดที่โครตลื่นจน 1 ในกลุ่มผมลื่นล้มเป็นแผลขนาดผมว่าค่อยเดินยังลื่นเลย จึงถ่ายภาพทางลาดไว้เป็นที่ระลึกซักหน่อย
ทางลาดที่โครตลื่น
เดินมาจนเหนื่อยเราก็เจอสะพานซึ่งไกด์บอกว่าเราน่าจะใกล้ถึงอุทยานหรือที่พักแหละ ทำให้มีกำลังใจหน่อย ผมมีโอกาสก็แวะพักถ่ายรูปกันหน่อยจะสังเกตุว่าน้ำใสมาก ไม่เคยได้เห็นน้ำสดอย่างนี้ใน กทม. เลยจริงๆนะ มันธรรมชาติจริงๆ ถ่ายมด ถ่ายปลา เอามาให้ชมกันครับ
สะพานข้ามแม่น้ำ
น้ำในธาร
selfy กับสะพาน
เดินมาซักพักใหญ่ๆ ร่างกายก็เริ่มเหนื่อยอ่อนกันทุกคนแต่ก็แข็งใจเดินต่อไป จนเริ่มเห็นป้ายบอกทาง ใจชื้นมาเยอะเลยครับ เดินทางกันประมาณ 3 ชั่วโมงกว่าจนเริ่มเห็นเส้นชัยแล้วความรู้สึกมันมีแรงเดินต่อเลย และพวกเราก็มาถึงอุทยานจนได้ซึ่งผมไม่ได้ถ่ายป้ายลืม + เหนื่อยมากด้วยสุดๆจริงๆ
สภาพเท้าเดินลุย
ป้ายบอกทาง
อุทยานอุ้มผาง
เรียกได้ว่ากว่าจะเดินทางมาถึงก็เอาไปแล้ว 1 วันกับความเหนื่อยล้าและความโหด ผมโดนแมลงกัดเยอะมาก คันมาก แนะนำเอายาติดมาด้วยเลยพวกยาหม่องไม่ก็พวกยาทาแก้แมลงกัดต่อย ช่วยได้เยอะ ทางอุทยานมีอาหารขายอย่างน้อยๆก็มาม่าอ่ะ ถือว่าดีมากแล้วมีห้องน้ำให้เราได้เข้าด้วยบางห้องก็เป็นแบบนั่งนะ บ้างห้องก็เป็นแบบคอห่านก็ดูดีๆก่อนจะเข้าไปแล้วกัน อาบน้ำที่นี่ … โครตหนาววววววววววววววว เรียกว่าตะโกนเป็นผีโดนข้าวสารเสกกันเลยทีเดียวแต่ก็มันส์ดี ฮ่าๆ หลังจากนั้นก็เป็นกิจกรรมกินข้าวกับเล่นเกมกันตอนกลางคืน สนุกดีกว่าจะได้นอนก็เกือบจะ 5 ทุ่มแหละ วันที่สองเนี้ยดราม่ากว่าวันแรกอีกและเราจะได้เจอความยิ่งใหญ่ของ ทีลอซู น้ำตกที่สวนติดอันดับโลกในภาคสอง จะเป็นอย่างไรติดตามต่อใน ep2 นะจ๊ะ ขอบคุณที่อ่านและติดตามกันจ้า
