[1/99] มือที่สาม

สำหรับเรื่อง มือที่สาม อาจจะตีความได้หลากหลายอย่าง ขึ้นอยู่กับตัวเราจะมองคำพูดนี้ ณ เวลาใดของชีวิต หากมองตอนมีความรักคำว่า มือที่สามอาจจะเป็นคำที่ไม่อยากได้ยินเลย หากมองในมุมว่า เป็นมีอที่มาช่วยเหลือเราเมื่อเรากำลังต่อสู้กับปัญหามันก็ยังได้ แล้วเราตอนนี้ล่ะ มองว่าอย่างไร …

ขออธิบายโปรเจ็คหน่อย

มือที่สาม

โปรเจ็คนี้เป็นแนวขำๆ ว่าจะเขียนให้ได้ 99 เรื่องซึ่งเป็นเรื่องอะไรก็ได้ โดยอาจจะมีธีมประจำสัปดาห์ ตอนนี้ผมเริ่มมาเข้ากลุ่มเขียนเรื่อง โดยทั้งนี้ในตอนจบของบทความหมวดนี้ผมจะ Link ไปหาน้องๆและเพื่อนๆในกลุ่มที่เขียน 99 วัน 99 เรื่องนะครับ เพื่อคนไหนอยากอ่านและมุมมองใหม่ๆ ก็ลองติดตามพวกเขาเหล่านั้นดูครับ

มือที่สาม

ธีมประจำสัปดาห์นี้เป็นคำว่า “มือที่สาม” แน่นอนคงไม่พ้นเรื่องความรักๆใคร่ๆ ที่ใครๆก็ต้องอยากสัมผัสมัน อยากรักษามันแต่วันหนึ่งดันมีคนพยายามจะมาแย่งมันไปจากคุณ คนนั้นต้องการเหมือนกัน อยากได้เหมือนกัน หรืออาจจะไม่ได้แค่อยากได้ แค่อยากให้เราไม่ได้ก็พอ

ความรัก กับ มือที่สาม

คิดว่าๆทุกคนที่ได้ยินคำนี้น่าจะคิดถึงเรื่องความรักก่อน ก็ไม่แปลกอะไร ประสบการณ์ที่ทุกคนต้องพบเจอมันและเจ็บลึกในบางครั้ง มือที่สามอาจจะไม่ได้มาในฐานะของคนที่อยากจะมาแย่งแฟนหรือคนรักของเรา แต่อาจจะเป็นฐานะของที่ยิ่งใหญ่กว่านั้นเช่น อาจจะเป็นพ่อแม่ของฝ่ายใดไม่ชอบ หรือไม่อยากให้เราคบกัน หรืออาจจะเป็นบุคคลที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจ ก็เรียก มือที่สามได้นะ สำหรับผมน่ะ

แต่เอาจริงๆ การเลิกกัน ของความรักบางครั้งมันก็ไม่ได้ร้ายแรงไปซะหมด ถ้าหากมือที่สามไม่ได้เข้ามาแย่งนะ แค่ไม่อยากให้เราคบกัน เราอาจจะไม่ได้คบกันในฐานะคนรักกัน แต่เราก็ยังคงดูแลกันได้ในฐานะพี่ น้อง เพื่อน ซึ่งฐานะแฟนมันอาจจะลึกซึ้ง แต่บางครั้งความสัมพันธ์ที่เราต้องการ ก็แค่เพียงได้เห็นเขามีความสุขหรือเราช่วยเหลือเขาได้ก็เพียงพอแล้ว ในกรณีที่มือที่สามไม่ได้เข้ามาแย่งอย่างนี้ก็อาจจะจบลงแบบแค่เราไม่ได้ใช้ชีวิตร่วมกันแต่ก็ยังคงดูแลกันได้

แต่หากเป็นคนที่อยากจะเข้ามาแย่ง ณ มุมมองของผมตอนนี้นั้น เราคิดว่าการที่อีกคนเชื่อมือที่สามอย่างหมดใจหรือไม่ถามเราเลยว่าสิ่งที่ได้ยินมา เป็นอย่างไร เราคิดว่า ถ้าหากทะเลาะกันเราคงคุยจนถึงจุดหนึ่งที่คิดว่า ถ้าเชื่อทางนู้นมากๆก็ไม่ต้องคุยกับเราแหละ เพราะมันเสียเวลา โตแหละอ่ะนะ เวลามีจำกัด ก็อาจจะเลิกกัน

เทคโนโลยี กับ มือที่สาม

มีแฟนแล้วหรือ … ก็อยากคุยแฟนไม่รู้ไม่สนใจ

ด้วยเทคโนโลยีสมัยทำให้คนเรานอกใจง่ายขึ้น คิดดูสิ แต่ก่อนยุคพ่อแม่เราจีบกัน ต้องมางานวัด และคนที่มางานวัดก็คือ คนแถวๆนั้นแหละ ไม่ก็จังหวัดนั้น แต่มีเพียงหยิบมือเองที่มารู้จักกัน ด้วยเทคโนโลยีสมัยนี้ทำให้คนเราเจอคนใหม่ๆง่ายๆ และพร้อมจะสร้างความสัมพันธ์ใหม่ๆด้วยอีกต่างหาก มีแฟนแล้วหรือ … ก็อยากคุยแฟนไม่รู้ไม่สนใจ คำอ้างสารพัดที่ทำให้คนสองคนมาเจอกันง่ายและคุยกันง่ายขึ้น

แต่ในมุมมองเราคิดว่าคำพูดใน pantip ก็จริงนะเรื่องคนเราจะคบกันได้ต้อง ศีล เสมอกัน คือ หากเป็นคนเคารพให้เกียรติคนอื่นก็จะอยากคบกันคนที่เคารพและให้เกียรติกันเหมือนกัน เคยเห็นคนที่ชอบพูดคำหยาบถ่อยๆ แฟนเขาก็ไม่ต่างกันเท่าไร นั่นแหละศีลเสมอกัน ถ้าหากแฟนเราเป็นคนไม่นอกใจเราเป็นคนไม่นอกใจ ต่อให้มีเทคโนโลยีเข้ามาทำให้เกิดการนอกใจง่ายขึ้นมันก็ไม่มีผลหรอกจริงไหม ?

วัตถุนิยม กับ มือที่สาม

ไหนๆมาเรื่องเทคโนฯ แล้วก็ควรมาเรื่องนี้ต่อเลย เอาจริงๆจากประสบการณ์อ้อมมมมมมมมมมมมมมม คือ คนรอบตัวเล่าให้ฟังเนี้ย การมีวัตถุที่ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกว่าเรามีนะ เรารวยนะ ทำให้การเข้าไปคุยและทำให้เกิดเรื่องมือที่สามง่ายนะ คือ ผู้ชายถ้ามี option เยอะ รวย บ้าน มือถือ ฯลฯ แล้วผู้หญิงไม่เข้าหาเนี้ย เราไม่ค่อยจะเชื่อ แต่!! ไม่ได้บอกว่าทุกคนนะใจเย็นสำหรับคนอ่านแล้วหัวร้อน คือ อยากให้มองมุมกว้างๆว่า ด้วยเศรษฐกิจแบบนี้ใครจะไม่อยากสบาย และคนอยากสบายทางลัดก็เยอะซะด้วยสิ

สรุป

คิดว่ามือที่สามนั้นอาจจะเกิดขึ้นเยอะในสังคมเรา หรือจริงๆแล้วอาจจะมีมานานและเยอะเพียงแต่ไม่ได้เปิดเผย ไม่เหมือนสังคมสมัยนี้จับอะไรได้มีการโพสประจาน 555 ทำให้เราเจอเรื่องพวกนี้เยอะขึ้น แต่เอาจริงๆนะ ใครๆก็ไม่อยากแย่งชิงความรักจากคนอื่นหรอก บางคนก็ถูกทำให้เป็นมือที่สามแบบไม่รู้ตัวก็มี ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงเพราะผู้ชายมาตอแหล แล้ว “มือที่สาม” ของคุณละเป็นแบบไหน เล่าให้ฟังบ้างสิ

Link

ไปดูของน้องคนอื่นๆบ้าง

Credit

ขอบคุณภาพสวยๆจาก https://unsplash.com/tersh4u

 

Loading

เป็นโปรแกรมเมอร์ที่ตามหาคุณค่าของชีวิตและความฝันในวัยเด็ก ชอบเล่นเกม เรียนรู้ทุกอย่าง ชอบเจอคนใหม่ๆ งานสังคมทุกชนิด ออกกำลังกายในวันว่าง อ่านหนังสือ มีเว็บรีวิวหนังสือด้วย www.readraide.in.th