อยากเขียนเกี่ยวกับเรื่องนี้นานๆแหละ เรื่องเกี่ยวกับ ความเงียบ คือ มันมีพลังมากๆนะเลยนะ และนำพาให้เราไม่ต้องเจอเรื่องซวยๆ การใช้ความเงียบให้เป็นประโยชน์มีหลายกรณีของชีวิต วันนี้เราจะมาคุยเรื่องนี้กัน
ขออธิบายโปรเจ็คหน่อย
โปรเจ็คนี้เป็นแนวขำๆ ว่าจะเขียนให้ได้ 99 เรื่องซึ่งเป็นเรื่องอะไรก็ได้ โดยอาจจะมีธีมประจำสัปดาห์ ตอนนี้ผมเริ่มมาเข้ากลุ่มเขียนเรื่อง โดยทั้งนี้ในตอนจบของบทความหมวดนี้ผมจะ Link ไปหาน้องๆและเพื่อนๆในกลุ่มที่เขียน 99 วัน 99 เรื่องนะครับ เพื่อคนไหนอยากอ่านและมุมมองใหม่ๆ ก็ลองติดตามพวกเขาเหล่านั้นดูครับ
ความเงียบ คือ … การป้องกัน
หลายๆครั้งในวัยรุ่น ( อืม … ตอนนี้แก่แหละ ) เรารู้สึกว่าทำไมบางครั้งไม่พูดความรู้สึกออกมาว่าคิดอะไร มีอะไรก็พูดกันตรงๆ เราเคยเข้าใจว่า การพูดกันตรงๆจะดี จะได้แก้ไขแต่บริบทของสังคมดันแปลก ดันรับความจริงๆกันไม่ได้แต่ชอบบอกให้ทุกคนว่า มีอะไรบอกได้เราตรงๆได้ ซึ่งไม่ใช่ทุกคนหรอกที่สามารถรับความจริงเรา เมื่อเราโตขึ้นเรายิ่งเข้าใจว่า โลกมันกว้าง ความกว้างของมันคือ ความคิดของเราที่เปิดมาว่า คนเราทุกคนนั้นไม่ได้รับคำพูดได้หมด บางคนเลือกไม่พูดเพราะคิดว่าพูดออกมาไม่ได้ทำให้เรื่องมันดีขึ้นกลับทำให้แย่ลง
เราว่า ความเงียบ ในกรณีนี้คือการป้องกัน ป้องกันให้เรื่องมันแย่ลง และป้องกันผู้พูดด้วยไม่ให้โดนเข้าใจผิดเราจึงสังเกตุว่ายิ่งโตทำไมผู้ใหญ่เลือกไม่พูดมากกว่าจะบอกอะไรเรา อาจจะเพราะขี้เกียจอธิบายและคิดว่าการพูดของเขาจะเป็น ความหวังดี ผิดเวลา
ความเงียบ คือ … การไม่เสือก
ขออภัยด้วยหากคำเขียนนี้ดูรุนแรง แต่คือความจริงครับ หลังจากข้อแรกเมื่อกล่าวถึงแล้ว จึงทำให้มาข้อนี้ต่อว่า ความเงียบ คือ การไม่ยุ่งเรื่องคนอื่น บางครั้งเราเองนี่แหละเป็นการพูดออกไปบางครั้ง เราหวังดีต่อผู้ฟัง อาจจะเป็นน้อง เป็นพี่ เป็นเพื่อน แต่ความหวังดีของเรานั้น มัน ผิดเวลา ใช่ !! ใช่ !!! มันผิดเวลาที่เขาจะฟังเรา และมองเราว่าการเสนอความคิดเห็นของเรานั้นคือการไปยุ่งกับเขานั่นแหละ
เราจะสังเกตุผู้ใหญ่หลายๆคนจะไม่ค่อยยุ่งกัน หรือถ้าไม่สนิทกันมากจริงๆเขาจะเลือกไม่พูด ถ้าใครเกรียนๆทำไมผู้ใหญ่บางคนไม่เตือนเรา นั่นแหละเขาไม่อยากจะยุ่งเรื่องของเรา เพราะเราอาจจะไม่ใช่ผู้ฟังที่ดีในสายตาเขา และเขาเตือนเราเขาก็ไม่ได้อะไร แย่ไปกว่านั้นเขาอาจจะโดนเราด่ากลับอีกซึ่งใครจะรู้ถูกไหม ? ไม่ใช่ทุกคนจะเตือนได้แม้ภายนอกเราจะดูสนิทกันจริงๆ แล้วสังคมเรานั้นผู้ใหญ่มักไม่ฟังเด็ก หรือฟังความคิดเห็นของคนอ่อนกว่า การเงียบในข้อนี้ถือว่าดีสำหรับสังคมบ้านเรามากกว่าเลือกจะไปพูด
ความเงียบ คือ … การไม่สนใจ
เคยได้ยินสมัยตอนเป็นเด็กๆว่า ปล่อยไปเดี๋ยวมันก็ได้รับบทเรียนเอง ตอนนั้นไม่เข้าใจว่าทำไมผู้ใหญ่ถึงได้พูดอย่างนี้ นั่นแหละเพราะโลกมันกว้าง ทำให้เรารู้ว่า บางคนไม่ได้มีการออกแสดงที่อ่อนน้อม เราอาจจะไปเจอคนจริงพร้อมลงไม้ลงมือกับเรา และการกระทำของเรา ซึ่งตอนสมัยเราเกรียนๆนั้น แล้วโตมาจนปัจจุบันได้โดยไม่โดนกระทืบตายเนี้ยเราคิดว่าเราโชคดีนะ แต่ก็นะ กว่าจะรู้ตัวก็สาย คำพูดนี้ยังคงทันสมัยเสมอ
แล้วการกลับไปเตือนคนวัยเกรียนก็คงไม่ช่วยอะไรเพราะความคิดของเขาก็คงเหมือนเราตอนนั้นแหละ ไม่ได้ฟังอะไร มีน้อยคนฟัง ก็หวังว่าใครซักคนมาอ่านแล้วจะนึกได้ว่าทำไมคนนั้น ผู้ใหญ่คนนี้ไม่พูดอะไร ไม่ใช่เขาโง่นะ เพียงแต่เขาไม่อยากยุ่ง และไม่สนใจจะดีกว่า
การเลือกเงียบ และไม่สนใจในสิ่งที่คนนั้นทำอาจจะเจ็บปวดเมื่อเราโตเป็นผู้ใหญ่ ( ถ้าตอนนี้คุณยังไม่รู้สึกก็นั่นแหละ … เข้าใจประโยคผมใช่มะ ? ) สมัยก่อนไม่เข้าใจ บอกพ่อแม่ว่า เราอยู่คนเดียวได้ ในตอนนั้นคือ อยู่คนเดียวแบบไม่ยุ่งกับใครไม่ช่วยเหลือใคร แต่มันไม่ใช่เมื่อเราเป็นมนุษย์ เราต้องการสังคม เราเป็นเฟืองที่ขับเคลื่อนทุกสิ่งไปพร้อมๆกับทุกสิ่งต้องพึ่งพาเราเหมือนกัน การถูกเมินหรือไม่สนใจก็เหมือนเฟืองของเราไม่ได้ทำงานร่วมกับใครเลย
สรุป
มาเขียนบทนี้เพราะอยากระลึกถึงสมัยวัยเกรียนมีคนมาเตือนมากมาย และเราไม่ฟังต้องมาเจอกับตัวเองก่อน แล้วจะมาบอกต่อก็คงสายไป มาเขียนไว้สำหรับเตือนเมื่อครั้งเป็นเด็กเราเข้าใจโลกน้อยมากๆ เขียนไว้เพื่อว่าซักวันข้างหน้ามีคนมาอ่านแล้วได้รู้ก่อนที่จะสาย
ชอบเรื่องราวแบบนี้ลองอ่าน
ความเงียบ ของคุณล่ะ … เป็นอย่างไร ?
Credit
ขอบคุณภาพประกอบ http://jaymantri.com/
แถม
มีน้องเขียนบทความเพิ่มโปรเจ็คนี้ไปอ่านได้อาจจะคนละเรื่องนะแนะนำต่อจ้า
https://storylog.co/story/5709e019adf666711fa6110e