ไม่มีประสบการณ์ ไม่ได้เรียนจบด้านคอมมา จะหางานเขียนโปรแกรมอย่างไร ?

ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมามีคนอยากจะย้ายสายงานมาด้านคอมเยอะมากๆ และมีคำถามซ้ำๆเกี่ยวกับว่า ผู้ถามไม่ได้เรียนจบสายคอมมา จะหางานอย่างไร หรือ บางคนไม่มีประสบการณ์เลยจะทำอย่างไร วันนี้ผมจะมาบอกว่า ถ้าบริษัทจะรับคนมาทำงานนั้นเขาดูอะไรบ้าง แล้วไม่ได้จบสายคอมมาทำงานได้หรือไม่ มาอ่านกันครับ

บทความนี้มีมูลค่า 99 บาทแต่ผมให้คุณอ่านฟรี คุณสามารถช่วยเหลือโดยไม่ต้องจ่ายเงินผมได้ด้วยการสมัครรับข่าวสารที่ด้านล่างของบทความ นั่นจะช่วยเหลือผมได้มาก ผมสัญญาว่าจะส่งบทความที่เป็นประโยชน์แก่คุณทุกครั้งที่ส่งไปให้ครับ

บริษัทมองอะไร จากคนไม่มีประสบการณ์ ?

ผมเคยเขียนบทความทำนองนี้อยู่ที่เจาะจงไปที่เด็กจบใหม่ หากคุณเป็นเด็กจบใหม่ลองอ่านที่บทความนี้ก่อนได้นะครับ เด็กสมัยนี้จบมาใช้ไม่ได้เลย

แต่ถ้าหากคุณไม่ได้เป็นเด็กจบใหม่ก็ไม่เป็นไรครับ เพราะผมอยากจะบอกว่า บริษัทที่ทำเกี่ยวการพวก program ต่างๆเขาจะสนใจอะไรบ้าง อย่างแรกคือ

เกรดเฉลี่ยไม่ได้เป็นสิ่งจำเป็นมากนักสำหรับงานสายนี้

อย่างที่บอกไปคือ ส่วนใหญ่งานด้านนี้เวลารับคน เราอยากเห็นว่าคุณทำอะไรมา มากกว่าคุณเรียนหนังสือแล้วได้เกรดเท่าไร คือ มันเป็นหนึ่งในการพิจารณาอันนี้ผมไม่เถียง แต่ถ้าให้เลือกเด็ก 3.60 ไม่เคยทำอะไรมาก่อนเรียนจบมาชิลๆ กับอีกคน 2.50 แต่มี project github เยอะเยะมากมายทั้งแบบเล็ก กลาง ใหญ่ ผมคิดว่าจะเลือกคน 2.50 มาคุยก่อนครับ

คนรอบตัวผมหลายคนเรียนไม่จบด้วยซ้ำแต่สามารถทำงานสายงานนี้ได้อย่างดีเยี่ยมเลยล่ะ แล้วทำไมคุณจะทำไม่ได้ถูกไหมครับ ? แปลว่ามันไม่ได้ขึ้นอยู่กับการศึกษาเพียงอย่างเดียว แต่ขึ้นอยู่กับการเรียนรู้ของคุณต่างหาก ถ้าคุณเป็นคนพร้อมพัฒนาตัวเอง และอยากทำให้ project มันดี ใครจะไม่อยากได้คุณมาทำงานล่ะครับ

ทัศนคติ ( Attitude ) โครตสำคัญ !!

เคยได้ยินจากเพื่อนในหัวการว่า ถ้าเก่งแล้วรับเข้าทีม แต่ทีมแตกก็ไม่รับมานะ แน่นอนว่าการจะทำ project ใหญ่ๆ เนี้ยมันไม่ได้ทำงานกันคนเดียวเพียงเท่านั้น เราต้องการคนที่เขียน program กับเราเป็นทีมของเรา แล้วประสานงานต่างๆ เพื่อให้บรรลุผลลัพธ์ร่วมกัน การรับคนที่มีทัศนคติแปลกๆเข้ามาอาจจะทำให้ ทีมแตกได้เลย ยกตัวอย่างเช่น

สมมติว่าทีม A เป็นทีมแนว Work Life Balance คือ ทำงานเต็มที่ประมาณ 8-9 ชั่วโมงบ้างมีวันหยุดทั่วๆไป แล้วบังเอิญว่าหัวหน้าได้คนมาใหม่ เข้าทีมโดยคนนี้มีทัศนคติทำงานตลอดเวลา แบบชีวิตไม่มีมิติอื่นเลย ทำงานทุกวันวันหยุดก็ทำ แล้วการกระทำนี้เริ่มเป็นการกดดันทีมแบบ ไม่ตั้งใจ แต่ทุกคนจะรู้สึกได้เองเลยว่าต้องปรับตัวตาม เพราะการทำงานเยอะมันอาจจะดูดีสำหรับในสายตาของผู้ว่าจ้าง แต่สำหรับคนทำงานทีม A อาจจะไม่ใช่

แน่นอนใครๆก็ชอบคนทำงานหนักๆ แต่ต้องหาจุดร่วมกันให้ดี ในกรณีตัวอย่างหัวหน้าอาจจะย้ายคนที่ทำงานหนักไปอยู่ทีมใหม่เพื่อสร้างทีมที่เป็นแบบนั้นอีกที จุดประสงค์ของตัวอย่าง ไม่ได้จะบอกว่า ชีวิตคุณต้อง work life balance แค่การมองโลกอาจจะต้องปรับเยอะๆ มีความใจเขาใจเรา มีการช่วยเหลือทีมต่างๆบ้าง

เจอปัญหา ควรจะหาวิธีจัดการที่ไม่ได้หาคนผิด เพราะการมองหาคนผิดในทีม มันไม่ได้ช่วยอะไรนอกจากคุณจะได้ทำงานมากขึ้นกว่าเดิมเพราะคนทำผิดเขาลาออกไป ต้องคิดว่าเราจะป้องกันการผิดพลาดครั้งนั้นได้อย่างไรดี เพื่อไม่ให้เกิดกับใครอีก

เพราะฉะนั้นทัศนคติที่ดีนั้นเป็นส่ิงสำคัญพอๆกับสกิล set เลย และการปรับเปลี่ยนทัศนคตินั้นก็ต้องใช้เวลาเหมือนกันเพราะฉะนั้นคนที่ทัศนคติดีก็เป็นสิ่งหนึ่งที่เป็นสิ่งหลักๆที่จะเลือกคนรับเข้าทำงานส่วนใหญ่การวัดสิ่งนี้จะเป็นคำถามบางอย่างที่เป็นสถานการณ์สมมติจะดูว่าคุณจะตอบอย่างไร วิธีฝึกก็ลองไปดูคำถามรับคนเข้าทำงานทั่วๆไป แล้วลองตอบแบบที่เป็นคุณโดยที่ยังเป็นทัศนคติที่ดีอยู่พอจะนึกภาพออกไหมครับ มาดูตัวอย่างคำถามกัน

– คุณเคยมีปัญหากับหัวหน้าหรือเพื่อนร่วมงานหรือไม่ แล้วคุณจัดการกับปัญหาเหล่านั้นอย่างไร?

– หากคุณมอบหมายให้ลูกน้องทำงาน แล้วงานนั้นมีความผิดพลาดเกิดขึ้น ทำให้คุณถูกหัวหน้าตำหนิอย่างมาก คุณจะเรียกลูกน้องมาตำหนิหรือไม่ เพราะเหตุใด หรือคุณจะดำเนินการอย่างไร ?​

– เมื่อมีการประชุมงาน มีคนในทีมมีความคิดเห็นไม่ตรงกับคุณ คุณจะทำอย่างไร?

– คุณสามารถรับมือกับคำวิจารณ์ได้มากแค่ไหน และจะแสดงออกอย่างไร?

– คุณเคยทำอะไรแล้วล้มเหลวหรือไม่ ถ้าเคย คุณจัดการกับผลตรงนั้นอย่างไร?

ก็ลองนึกๆดูว่าจะตอบอย่างไรครับเพราะมันไม่มีผิดหรือถูกแบบชัดเจน

ทำอะไรมาแล้วเจอปัญหาอะไร แล้วแก้ยังไง ?

ข้อนี้สำหรับข้อดีคือ หากคุณมี project ที่ทำเล่นหรือจริงซึ่งเดี๋ยวคุณไปอ่านในหัวข้อถัดไป บริษัทที่จะรับคนทำสายงานด้าน program นั้นเขาอยากรู้ว่าคุณทำอะไรมาแล้วติดปัญหาอะไร แล้วแก้ยังไง เพราะสิ่งที่คุณทำนั้นในการทำงานจริงจะได้รู้ว่าคุณแก้ปัญหาต่างๆแบบไหน

เช่น คุณอาจจะเล่าว่าเคยได้ทำ project อันหนึ่งแล้วต้องไปทำเกี่ยวกับ cloud service ซึ่งคุณไม่เคยได้ทำมาก่อนเลย แล้วคุณก็เริ่มไปลงคอร์สเรียนจบภายใน 1 อาทิตย์ แล้วเริ่มทำงานเรียนรู้ on the job traning ซึ่งตอนแรกก็ติดปัญหาไม่เข้าใจวิธีใช้ แต่ก็ลองหาความรู้ถาม google ถามในกลุ่ม facebook บวกลงคอร์สทำให้พอเข้าใจ concept ถึงแม้ว่าจะไม่เข้าใจทั้งหมดก็สามารถสร้าง program ที่ run บน cloud service ได้

ถ้าตอบประมาณนี้ผู้ที่ถามก็จะได้รู้แล้วว่าคุณสามารถเรียนรู้ด้วยตัวเองได้ อาจจะมีตะกุกตะกั้กบางในช่วงเริ่มแรก แต่คุณจะทำมันจบได้แน่ๆ มั่นใจว่าคุณทำงานได้ทำนองนี้ครับ

ไม่ได้จบด้านคอมมา ทำอย่างไรดี ?

ข่าวดีคือ คนที่จบด้านคอมมาก็ไม่เข้าใจมันเยอะเหมือนกันครับ ข่าวร้ายคือ คุณอาจจะต้องอดทนเรียนรู้เยอะกว่าคนที่จบมาด้านนี้ซักหน่อย ด้วยเนื้องานส่วนใหญ่แล้วนั้นผมบอกได้เลยว่า ถ้าคุณเรียนรู้การเขียน program ไม่ว่าจะภาษาอะไรซัก 3 เดือนก็สามารถทำงานขั้นต้นได้แล้วในระดับ Junior ครับ

แต่ 3 เดือนอันนี้ผมหมายถึงเรียนรู้ทุกวันนะครับ หรือเรียนในเวลาว่างวันละ 1-2 ชั่วโมง แล้วส่วนที่เหลือคือ ขึ้นอยู่กับคุณแล้วว่าจะอยากเติบโตไปทางไหนอย่างไร แต่แนะนำว่าควรจะเขียน program ซัก 2-3 ปีให้รู้ว่าภาพ project ต่างๆมันเป็นอย่างไร ไม่งั้นเวลาคุยกับ developer จะลำบาก

โชคดีอีกอย่างของคุณคือ ในยุคที่คอร์สเรียนเรียกได้ว่าถูกเหมือนฟรี คุณสามารถหาความรู้ได้แบบ unlimit เลยทำให้คุณไม่ต้องลงทุนมากนัก ลงทุนแต่เวลาอย่างเดียว

ผมเคยมีประสบการณ์ที่รับน้อง Junior จบไม่ตรงสายมาทำงานด้วย แบบไม่เคยเขียน​ program เลยแต่สุดท้ายก็สามารถทำงานได้ ใช้เวลาประมาณ 6 เดือนแน่นอนว่าความเร็วในการพัฒนาของแต่ละคนไม่เหมือนกัน จุดประสงค์ที่ผมจะเล่าให้ฟังคือ มันเป็นไปได้ถ้าคุณตั้งใจ เหมือนกับน้องในทีมผมที่ไม่ได้จบตรงสายก็ตามที น้องกลับไปเรียนคอร์สเพิ่มทุกวันแล้วก็มาถามผม สิ่งเหล่านี้เรียกว่าความใส่ใจที่อยากจะพัฒนา แล้วผมจะปฎิเสธการถามเพราะเขาอยากพัฒนาตัวเองได้อย่างไรกันล่ะ ถูกไหมครับ ?

1. ไม่มีประสบการณ์หางานยังไง ?

สังเกตุไหมว่าเวลาคนรับสมัครงานส่วนใหญ่ต้องการคนมีประสบการณ์ อย่างน้อยก็ 1 ปีแต่ก็ทำให้เกิดคำถามตามมาว่า แล้วคนเพิ่งจบ หรือว่าคนเพิ่งจะย้ายสายงานมาจะทำอย่างไร ? เนื่องจากสายงานด้านนี้ต้องการคำทำได้เลย ซะส่วนใหญ่เพราะเนื้อหางานค่อนข้างต้องการสกิลด้านการเขียนโปรแกรมและการเข้าใจภาพรวม การที่ได้ทำงานมาระดับหนึ่งจะเริ่มมองเห็นภาพรวมของ project เล็กๆได้

กลับมาคำถามคือ แล้วไม่มีประสบการณ์จะทำอย่างไร แนะนำว่า

ให้เริ่มทำ project เลียนแบบ หรือ project งานง่ายๆ

Project เลียนแบบ

อ่านแล้วอาจจะงง Project เลียนแบบคืออะไร ผมยกตัวอย่างอย่างนี้ครับ คุณอาจจะมีสกิลสำหรับ frontend คุณลองทำเว็บที่มีในปัจจุบันดูแต่ไม่ต้องเอาครบทุก function วันก่อนผมเจอน้องคนหนึ่งเขาฝึกทำเว็บด้วย nextjs โดยเอาเว็บคุณชัชชาติมาฝึกทำซึ่งทำออกมาได้ดีด้วย

ด้านซ้ายคือเว็บต้นแบบ ด้านขวาคือเว็บเลียบแบบ จะสังเกตุว่ามันไม่ต้องเหมือน 100% แต่สิ่งที่สื่อสารออกมาได้คือ งานนี้ทำให้รู้ว่าสกิลที่คุณมาคืออะไร คุณทำอะไรได้บ้าง เพราะการลงมือทำจริงพวกนี้จะมีปัญหาต่างๆเข้ามาด้วยแล้วคุณแก้ไขมันอย่างไร

https://www.chadchart.com/ – เว็บต้นแบบ

https://chadchart.vercel.app/ – เว็บที่น้องเขาฝึกทำ

เพราะฉะนั้นถ้าคุณตอนนี้ไม่มีประสบการณ์การทำงานก็สามารถทำให้ตัวเองมีประสบการณ์ได้เลยโดยไม่ต้องรอทำงานจริง อันนี้อาจจะเป็นข้อได้เปรียบของสายงานด้านนี้จริงๆ คือ ลงทุนต่ำมาก สามารถเริ่มต้นได้ฟรี หรือ ลงทุนเงินน้อยมากๆถ้าเทียบกับสายงานอื่นๆครับ

บอกตรงๆว่าถ้าคุณสมัครเป็นตำแหน่ง Junior developer ทำให้เห็นเท่านี้ก็คิดว่าน่าจะมีคนอยากจ้างแล้วนะ เพราะว่าเขาได้เห็นสกิลแล้วว่าคุณทำอะไรได้บ้าง

2. Project เล็กๆหรืองานง่ายๆ

ข้อนี้จะคล้ายกับข้อแรกแต่จะแตกต่างไปซักนิดคือ ให้ฝึกทำแบบง่ายๆก่อน แล้วเก็บไว้ใน github ก็ได้ถ้าคุณยังไม่รู้จักผมแนะนำว่าคุณต้องเรียนรู้วิธีใช้ github ไว้เลยครับว่าเป็นที่เก็บผลงาน ให้เริ่มจากทำ โปรแกรมง่ายๆ เหมือนตัดเกรด แล้วค่อยๆพัฒนาให้มันทำอะไรได้เยอะขึ้นเรื่อยๆ

ไม่ก็โปรแกรมหารค่าเหล้า ค่าอาหาร พวกนี้มันเป็นการบวกลบเลข แล้วจะได้ฝึกการเก็บข้อมูลเข้าฐานข้อมูล ประมาณนั้นครับ ผมเคยมีแบบพวกงานนอกทำ POS ( Point Of Sale ) พวกโปรแกรมคำนวนการขายหน้างานแบบนี้ก็ไม่ได้ยากอะไร แต่บางครั้งเราจะได้เรียนรู้อะไร แปลกๆจากคนจ้างก็มีครับ เช่น ลูกค้าคนนี้ขาประจำลดให้ 15% ทุกครั้งที่ซื้อของ แต่สำหรับคนอื่นให้ 10% แบบนี้ ถ้ามีทศนิยมให้ปัดลงหมดเลย ก็มีเพื่อลดให้ลูกค้าก็มี ปกติเราจะคิดเลขแบบ .5 ปัดขึ้นถูกต้องไหมครับ แต่บางครั้งความถูกต้องมันไม่ได้เกี่ยวกับการขายซักหน่อย ถ้าไม่เคยทำพวกนี้มา ลองไปทำพวกโปรแกรมเล็กๆแบบนี้ดูครับ สนุกและได้เรียนรู้อะไรจากงานพวกนี้แหละครับ

ถ้านึกไม่ออกว่าจะทำ project อะไรดีทำไง ?

ถ้าคุณนึกไม่ออกเพราะว่าไม่ได้เคยทำพวกนี้เลยนึกไม่ออกเลยว่า ภาษาที่ฉันเรียนรู้มาทำอะไรได้ แนะนำว่าของ ค้นหา google หรือ youtube แล้วใส่คำว่า workshop ดูครับ

python workshop
php workshop

แต่ปัญหาของการหาของฟรีคือ step การเรียนรู้อาจจะไม่ได้ถูกเรียงมาอย่างดี ผมก็มีทางเลือกว่า คุณอาจจะซื้อคอร์สเรียนในเว็บต่างๆได้เพื่อให้เข้าใจมากยิ่งขึ้นครับ แต่คอร์สไหนลองปรึกษาคนในกลุ่ม programmer ดูครับส่วนตัวผมชอบไปหาซื้อใน udemy เพราะมันถูกและดี ไม่ได้แพงอะไร แลกกับความรู้ที่ได้หาเงินได้เยอะมากๆอยู่แล้ว

หวังว่าจะเป็นประโยชน์กันนะครับ แล้วคุณผู้อ่านก็จะนึกภาพออกแล้วว่า ถ้าตัวเองยังหางานไม่ได้ต้องเติมเรื่องไหน ยังไง บทความนี้ไปก่อนเจอกันบทความหน้าครับสวัสดีครับ

Loading

เป็นโปรแกรมเมอร์ที่ตามหาคุณค่าของชีวิตและความฝันในวัยเด็ก ชอบเล่นเกม เรียนรู้ทุกอย่าง ชอบเจอคนใหม่ๆ งานสังคมทุกชนิด ออกกำลังกายในวันว่าง อ่านหนังสือ มีเว็บรีวิวหนังสือด้วย www.readraide.in.th