ก่อนที่เราจะไปเริ่มต้นเรียนรู้เกี่ยวกับการเขียน code นั้นสิ่งสำคัญคือเราต้องมีเครื่องไม้เครื่องมือที่ช่วยให้เราเขียน code ได้ง่ายมากขึ้นในบทความนี้จะสอนการ set up และสิ่งต่างๆที่ต้องเรียนรู้ว่าเราจะมีเครื่องมือช่วยเราเขียน code ไปทำไมกัน
IDE
หลายๆคนพอเร่ิมมาเขียน code แล้วนั้นสิ่งที่ต้องรู้จักเป็นอย่างแรกเลยคือคำว่า IDE หรือย่อมาจากคำว่า Integrated development environment แปลเป็นคำบ้านๆคือ สิ่งที่จะช่วยให้เราทำงานตอนเขียนโค้ดได้ดี
รู้จักชื่อเรียกแล้วมาดูว่ามันทำไมเราถึงต้องใช้มัน
Why do we need ( ทำไมเราต้องใช้มัน ? )
จริงๆแล้วมาเขียน code สมัยก่อนนั้นเราเขียนผ่านพวกโปรแกรม Text editor ที่ติดมากับเครื่องได้เลยเช่นใน window เราจะมี notepad หรือใน mac ก็มี text editor แต่ปัญหาจากใช้พวกโปรแกรมที่มันไม่เฉพาะทางคือ
- เขียนผิดไม่รู้ว่าตรงไหน
- บางครั้งการใส่เครื่องหมายบางอย่างทำให้โปรแกรมไม่อ่าน หรือ อ่านไม่ออกเช่น ” ( double quote ) หรือ ฟันหนูซึ่งบางครั้งในบางโปรแกรมมันจะเปลี่ยนเป็นเครื่องหมายคำพูด
- เปลี่ยนสีไม่ได้ทุกตัวอักษรเราจะไม่รู้เลยว่าตัวนี้ตัวแปร หรือว่าเป็นค่าคงที่ ( อ่านแล้วงงไม่เป็นไร เดี๋ยวจะพาไปรู้จักทีหลังครับ )
- ปรับเปลี่ยนแบบที่เราอยากทำไม่ได้เช่น เราไม่สามารถเพิ่มปุ่ม shortcut เองได้ หรือปรับแต่งอย่างอื่นได้
- ในปัจจุบันเราไม่ได้เขียนแค่โค้ดอย่างเดียวแต่มีโปรแกรมหลายตัวที่เราต้องทำงานแบบผสมผสาน ( integrate ) สมมติเช่น เราต้องการเขียนไฟล์ html แล้วต้องทำการ upload ไปที่ server ขั้นตอนคือ คุณสร้างไฟล์มา 1 ไฟล์ทำการเขียน code กด save แล้วเอาไฟล์นั้นไป upload ขึ้น server hosting ถึงจะจบการทำงานแต่บางโปรแกรมคุณสามารถเปิดเขียนโค้ดกด save แล้วมันทำการ upload ไปเลยครับ
Which one do we choose? ( เลือกอันไหนดี ? )
ในปัจจุบันเรามี IDE หลายยี่ห้อมากๆ โดยหลักๆที่จะใช้กันทั่วๆไปก็จะมี
- vscode ( ฟรี )
- sublime text 3 ( ฟรี )
- บางอันนจะเป็น IDE เกิดมาเพื่อภาษานั้นๆ เช่น PHPStrom ( เสียเงิน ) แต่มีทุกอย่างให้ครบทำนองนี้ที่เหลืออยู่ที่เราจะเลือกใช้อันไหน
ซึ่งตอนนี้ถ้าคุณยังไม่เคยเขียน code ไม่เป็นไรแนะนำให้เลือก vscode ไปก่อนเลยเพราะตอนนี้ถือว่าครบเครื่องในระดับหนึ่งแล้วผมจะไม่อธิบายวิธี install โปรแกรมนะครับคิดว่าทุกคนพอจะทำได้อยู่บ้าง ถ้าไม่ได้จริงๆ คลิกทางนี้เลย การติดตั่ง VS code
สรุป
IDE คือ โปรแกรมเขียน code นั่นเอง ทำให้เราสามารถเขียน code ได้ง่ายขึ้นสะดวกขึ้น